ครอบครัวตำรวจทางหลวงขอนแก่นทุกคน ยินดีรับใช้ครับ


ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ด้วยการ ๑.ไม่ขับรถเร็วเกินกฏหมายกำหนด ๒.เมาไม่ขับ ๓. ก่อนขับร่างกายต้องพร้อม รถพร้อม


จุดให้บริการ ที่พักผ่อน ห้องน้ำ เครื่องดื่ม กาแฟ แก่ผู้เดินทาง หน่วยบริการบ้านไผ่ หน่วยบริการน้ำพอง หน่วยบริการหนองเรือ แวะใช้บริการได้ทุกเมื่อ หรือขอความช่วยเหลือ โทร.1193

วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เส้นทางจากขอนแก่น สู่ มุกดาหาร

0 comments
ได้มีโอกาสเดินทางไปอำนาจเจริญ และมุกดาหาร โดยเริ่มจากขอนแก่น ตั้งแต่ เวลา ๐๙๐๐ น. เพื่อไปส่ง พ.ต.ท.จอมพล รุจิรดำรงค์ชัย ในโอกาสเดินทางไปรับตำแหน่ง ๖๕ ที่ อำนาจเจริญ ระหว่างทางได้แวะพักที่ สถานีตำรวจทางหลวงร้อยเอ็ด ซึ่งต้องบอกว่า เคยไปครั้งแรก แม้จะอยู่กองกำกับเดียวกัน เพราะอยู่ไกล จะไปดูให้เห็นกับตาว่า สวยงามจนได้รับรางวัล หน่วยบริการดีเด่นภาคอีสานจริงหรือไม่

Photobucket

Photobucket

Photobucket

ดูภาพแล้วสวยงามร่มรื่นสมคำจริงๆ ข้างหน้าสถานีมีร้านขายกาแฟ ด้วย บริเวณสนามหญ้าก็ทำเป็นเก้าอี้ไม้ยกพื้นสูงด้วยไม้เช่นกัน สำหรับนั่งจิบกาแฟ นั่งพักผ่อนให้หายเหนื่อย

Photobucket


Photobucket

มีป้ายบอกให้รู้ด้วยนะว่าเราได้รางวัลชนะเลิศ  ห้องน้ำที่ร้านกาแฟ ตกแต่งได้อย่างกลมกลืนกับชุดไม้ และซุ้มน้ำตกที่อยู่ข้างๆ เรียกว่าแม๊ต กันมาก ไม่ใช่งบแล้วจะทำได้นะครับ ไอเดียบรรเจิดครับ

Photobucket

สนามหญ้าข้างร้านกาแฟนั้น ใช้เป็นที่กางเต็นส์ สำหรับนักท่องเที่ยว นักเดินทางด้วยนะครับ มีเต้นส์ กางไว้เป็นตัวอย่างด้วย
              หลังจากนั้นก็เดินทางต่อไปที่ จ.อำนาจเจริญ เมื่อ ส่ง๖๕ แล้วเดินทางไปที่ จ.มุกดาหารเพราะว่าที่ อำนาจเจริญ เห็นตำรวจที่นั้นบอกว่ามีร้านข้าวต้มอยู่ร้านเดียว ต้องไปกินที่มุกดาหาร ริมโขง เมื่อกินเสร็จ ได้เวลาเที่ยว สถานที่แรกคือ หอแก้วมุกดาหาร

Photobucket

ที่ตรงนี่ เป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวแทบทุกคน น่าจะเป็นสัญลักษณ์ของมุกดาหาร นักท่องเที่ยวก็อยากจะดูวิวของเมืองมุกดาหารก็ต้องมาที่นี่ ค่าขึ้นไปชมก็ ๒๐ บาท อีกอย่างที่จัดไว้ในนี้จัดไว้แบบ เหมาะมาก คือ ประวัติ วัฒนธรรม ของเมืองมุกดาหาร จะนำมาจัดแสดงรวมกันไว้ที่นี่ ก็รู้ว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาที่นี่ก็จัดรวมกันไว้ซะเลย เยี่ยม  ที่ประทับใจผมก็คือ ประวัติของแต่ละชนเผ่าของมุกดาหาร

Photobucket
วิวของมุกดาหารมองจาก หอแก้ว

Photobucket
มุกดาหารริมฝั่งโขง

        ที่น่าสนใจของชนเผ่าคือ มีชนเผ่าเยอะมาก นำมาเขียนไว้ไม่หมด เหตุเพราะว่า เมืองนี้เป็นเส้นทางค้าขายของภูมิภาคนี้ สังเกตได้จาก มีเงินโบราณมากมายเช่น เงินรูปี  เงินถาด (ซึ่งเป็นเงินแท้ หล่อขึ้นเหมือนรางข้าวหมู ตอนเดินเที่ยวที่ตลาดอินโดจีน ก็มีแม่ค้านำมาวางขาย แต่คิดว่าไม่ใช่ของจริงเพราะ ขายแค่ ๗๐๐ บาท ขนาดยังไม่ต่อรองราคานะเนี๋ย กลัวเหลือ ๕๐ บาท ขนาดที่หอแก้วยังไม่มีโชว์ เลย แล้วแม่ค้าเอามาจากไหน แม่ค้าที่เอามาขายก็ ดูเหมือนไม่ใช่คนอีสาน แต่เหมือนคนเวียดนาม ที่อยู่ตามภูเขา พูดไทยไม่ชัดด้วย แต่เอ หรือว่าเป็นชนเผ่าที่นี่)   ผมน่าจะเรียกเมืองนี้ว่า เมืองในเส้นทางสายไหมจะดีกว่า ที่ผมสนใจชนเผ่าก็เพราะว่าตอนผมเรียนที่กรุงเทพฯ(ผมเป็นเด็กกรุงนะจะบอกให้) มีรุ่นพี่คนหนึ่งผู้หญิงครับ สวยมากขาวด้วย เขาบอกว่ามาจากมุกดาหาร พูดภาษาชนเผ่าได้ด้วย และตอนเด็กๆ ตอนที่ผมอยู่ขอนแก่น มีพ่อค้า ที่มาซื้อทองตามหมู่บ้าน เขาจะมีลายสักที่ต้นขาขวาเช่นกัน บอกว่ามาจากมุกดาหาร ตามประวัติที่เขียนไว้ให้อ่านที่หอแก้ว มีแม้กระทั้งมาจากพม่า ก็มี มาจากเวียดนาม ก็มี เห็นได้ว่าเป็นเส้นทางการค้าจริงๆๆ
Photobucket
ระหว่างทางที่เดินชมตลาดอินโดจีน พบไอเดียบรรเจิด ทำให้ค้าขายได้
         หลังจากนั้นได้ไปสักการะ ศาลเจ้าแม่สองนาง ที่อยู่ติดท่าเรือข้ามฝาก ผมถามคนแถวนั้นว่าทำไมจึงมีศาลเจ้าแม่สองนาง

Photobucket

เขาบอกว่า อยู่คนเดียวเปรี่ยวหัวใจ อยู่สองคน ทุกข์ระทมแต่สนุก เพราะเหตุนี้มุกดาหารจึงมีศาลเจ้าแม่สองนาง ข้อเท็จจริงผมไม่ทราบ แต่ก็ได้ไปสักการะท่านแล้ว
Photobucket
        ถึงเวลาเดินตลาดริมโขง มีวัดตลอดฝั่งโขงครับอยู่คนละฝั่งกับตลาด วัดเยอะครับ ตามตำรา ว่าไว้ว่า เมืองใด ค้าขายร่ำรวย สงบสุข เมื่องนั้นวัดจะเยอะ เพราะคนเลื่อมใสในศาสนา ดูอย่างอยุธยา สิก่อนเสียกรุงวัดน่าจะเยอะกว่านี้ ตำราต่างๆ ก็น่าจะเยอะด้วยแต่ทุกวันนี้เห็นแต่ซากเพราะโดนเผาหรือเปล่า วัดตามริมโขง ใครเป็นคนสร้าง รับวัฒนธรรมมาจากใหน ผมสังเกตุดูแล้ว พระพุทธรูปแถวหนองคาย ซึ่งเป็นอีสานเหนือ ตลอดมาถึงมุกดาหาร แดนอีสานใต้ มีลักษณะเหมือนกัน อย่างเป็นพระนาคปรก พญานาค ลำตัวตรงๆๆ เหมือนกัน เห็นได้ว่ารับวัฒนธรรมมาจากลาว(อาณาจักรล้านช้าง)ข้อมูลนี้ อ่านมาจากวัดในจังหวัดหนองคายครับ

Photobucket

Photobucket

Photobucket

สัตว์เทพนิยาย ไม่เคยเห็นและไม่เหมือนใคร แล้วแต่เราจะจินตนาการอย่างไร อยากให้วิเศษอย่างไร ก็เอาความวิเศษของสัตว์แต่ละชนิดมาผสมกัน ออกมาเป็นรูปร่างอย่างที่เห็น หนักเข้า เอาคนไปผสมด้วยก็มี เป็นความสวยงามของจินตนาการและศิลปะ แต่สิ่งที่เชื่ออย่างยืนยงในแถบนี้คือพญานาคครับ ได้เวลากลับขอนแก่นแล้วครับ


music Photobucket

วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ร้านอาหารในขอนแก่นบรรยากาศสบายๆ อาหารอีสานแซบๆ ร้านแซบสบาย

0 comments
ขณะที่ผู้เขียนได้ออกตรวจการณ์กับรถสายตรวจ โดยมุ่งหน้าไปทางหนองเรือ ทล.12 หรือที่เราเรียกว่าถนนมะลิวัลย์ เมื่อถึงเวลาเที่ยงพอดี ตรงข้ามปั๊ม ปตท.มะลิวัลย์ ก่อนถึงทางต่างระดับรอบเมือง นั้นแหละครับ กำลังหิว เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปประมาณ 100 เมตร เพื่อไปรับทานอาหารเที่ยง ตามที่คู่ตรวจแนะนำ คือ ร้านแซบสบาย เป็นร้านอาหาร แบบเปิดโล่ง ลมพัดเย็นสบาย เงียบสงบ ได้เข้าไปนั่งในร้านแล้วคลายเหนื่อยได้เยอะมาก บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยต้นไม้ ร่มรื่นครับ


โดยจะนั่งรวมในอาคารหลังใหญ่หรือแยกนั่งที่เรือนไม้ก็ได้ ที่เรือนไม้ก็ได้ประดับดอกไม้ไว้สวยงาม ปูหญ้าเขียวขจีสบายตา












ที่อาคารหลังใหญ่กว้างขวางเปิดเพลงให้ฟังเย็นสบาย













ที่จอดรถกว้างขวางจอดรถได้สบายๆ




อาหารที่นี่เป็นสไตย์อาหารอีสานแบบ original ที่นับวันจะหารับประทานได้ยาก เป็นแบบดั้งเดิม
รสชาต แซบ ตามสไตย์ ดั้งเดิมจริงๆ ได้ถามเจ้าของร้านถึงที่มาของชื่อร้าน ว่าได้มาจากลูกค้าที่ได้ลิ้มรส อาหารที่นี่ แล้วบอกได้คำเดียว ว่า แซบ และ บรรยากาศแบบ สบาย เลยเป็นที่มาของชื่อร้านว่าแซบสบาย อาหารก็ราคาถูก นั้นหมายถึงว่าเมื่อคุณมารับประทานที่ร้านนี้ก็สบายกระเป๋าด้วย


รายการอาหารที่สั่งมารับประทานกัน แทบไม่อยากลุกไปไหนครับ รายการมี ต้มเป็ด(ซดร้อนๆทันทีครับ) ลาบหมู ก้อย เนื้อแดดเดียว
ปลานิลแดดเดียวทอด อร่อยทุกอย่าง แต่ที่ขึ้นชื่อของที่นี่ คือก้อยเนื้อ สั่งแล้วสั่งอีก อร่อยมาก ลองชิมอาหารอร่อยๆบรรยากาศดีๆ ไม่วุ่นวาย ไม่ไกลเลยครับ ตรงข้าม ปั๊ม ปตท.มะลิวัลย์ ทางไปชุมแพ เลี้ยวซ้ายก่อนถึงทางต่างระดับมะลิวัลย์ ค้นพบความแตกต่าง ในแบบสไตย์ที่ลงตัว ทุกคนสัมผัสได้ ร้านแซบสบาย ครับ







ผลไม้รวม สำหรับทุกท่านนะครับ บำรุ่งร่างกาย






music


Photobucket

วันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

คู่มือประหยัดพลังงาน หยุดรถซดน้ำมัน

0 comments
ตำรวจทางหลวงขอนแก่นขอแนะนำวิธีขับรถให้ประหยัดน้ำมันดังนี้

1. ขับรถไม่เกิน 90 ก.ม./ชม.
* ความเร็วสูงสุดที่กฎหมายกำหนดไว้

* ทางธรรมดา 90 กม./ชม.

* ทางด่วน 110 กม./ชม.

* มอเตอร์เวย์ 120 กม./ชม.

2. จอดรถไว้บ้าน โดยสารสาธารณะ

* ถ้าผู้ใช้รถยนต์ร้อยละ 1 จากจำนวน 5 ล้านคัน หันมาใช้บริการรถสาธารณะ ด้วยระยะทาง 48 กม./วัน

* ใน 1 ปี (260 วันทำงาน) จะประหยัดน้ำมัน 52 ล้านลิตร คิดเป็นค่าน้ำมัน 780 ล้านบาท

3. ไม่ขับก็ดับเครื่อง

* การติดเครื่องยนต์จอดอยู่เฉยๆ เป็นเวลา 5 นาที

* สิ้นเปลืองน้ำมันโดยเปล่าประโยชน์ 500 ซีซี

4. ทางเดียวกันไปด้วยกัน

* ถ้าขับรถยนต์ 5 คัน ไปทางเดียวกัน ที่หมายใกล้กัน ระยะทาง 48 กม./คัน (ไป-กลับ)
* ใน 1 ปี (260 วันทำงาน) จะสิ้นเปลืองน้ำมัน 5,200 ลิตร คิดเป็นค่าน้ำมัน 78,000 บาท

* ถ้าร้อยละ 1 ของรถยนต์ 5 ล้านคัน ใช้ Car Pool สลับขับ 5 คน ต่อรถ 1 คัน

* ใน 1 ปี จะประหยัดน้ำมันได้ 41.6 ล้านลิตร คิดเป็นเงิน 624 ล้านบาท

5. หลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วน

* ถ้ารถติดเพียงร้อยละ 1 ของ จำนวนรถยนต์ 5 ล้านคัน ในวันทำงานทุกวัน และในบางเสาร์-อาทิตย์ ใน 1 ปี (330 วัน/ปี)

* จะสิ้นเปลืองน้ำมัน 12.4 ล้านลิตร คิดเป็นค่าน้ำมัน 186 ล้านบาท

6. ใช้โทรศัพท์-โทรสารเลี่ยงรถติด

* ใช้อุปกรณ์สื่อสารแทนการเดินทาง เช่น ส่งหนังสือระหว่างหน่วยงาน

* หากเร่งด่วนก็ใช้วิธีส่งทางโทรสาร

* หากเป็นเอกสารสำคัญก็ใช้วิธีรวบรวมเอกสารแล้วส่งพร้อมกัน

* หนังสือเวียนที่ไม่สำคัญก็ใช้วิธีส่ง E-Mail หรือส่งไปรษณีย์

7. วางแผนก่อนเดินทาง

* ถ้าไม่ศึกษาเส้นทางก่อนเดินทาง และขับรถหลงทาง 10 นาที

* จะสิ้นเปลืองน้ำมัน 500 ซีซี คิดเป็นค่าน้ำมัน 7.50 บาท

* ถ้ารถยนต์ 5 ล้านคัน ขับหลงทาง เฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง ใน 1 ปี

* จะสิ้นเปลืองน้ำมัน 30 ล้านลิตร คิดเป็นค่าน้ำมัน 450 ล้านบาท

8. ลมยางต้องพอดี ไส้กรองต้องสะอาด

* ความดันลมยางอ่อนกว่ามาตรฐาน 1 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ถ้าขับทุกวันเฉลี่ยวันละ 48 กม. ใน 1 เดือน

* รถยนต์ - สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 2.4 ลิตร

* รถจักรยานยนต์ - สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.2 ลิตร

* รถบรรทุก - สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 4.2 ลิตร

* ถ้าร้อยละ 30 ของรถแต่ละประเภท ละเลยเช่นนี้บ่อยๆ รวมเป็น 30 วัน/ปี

* จะสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 5.8 ล้านลิตร

* คิดเป็นเงิน 87 ล้านบาท

* ถ้าไส้กรองสะอาด จะช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันวันละ 65 ซีซี

* ควรทำความสะอาดทุก 2,500 กม.
* ควรเปลี่ยนทุก 20,000 กม.

9. ไม่บรรทุกของเกินจำเป็น

* หากขับรถโดยบรรทุกของที่ไม่จำเป็น ประมาณ 10 ก.ก. เป็นระยะทาง 25 ก.ม.

* สิ้นเปลืองน้ำมัน 40 ซีซี

* ถ้าร้อยละ 10 ของรถยนต์ทั่วประเทศ 5 ล้านคัน ขับรถโดยบรรทุกสิ่งของที่ไม่จำเป็น

* ใน 1 ปี จะสิ้นเปลืองน้ำมัน 7.3 ล้านลิตร คิดเป็นเงิน 10.95 ล้านบาท

10. ตรวจเช็คเครื่องยนต์เป็นประจำ

* เปลี่ยนไส้กรองตามกำหนด

* เปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นทุก 5,000 กม.

* ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง และน้ำในแบตเตอรี่

* ตรวจสอบระดับน้ำป้อนหม้อน้ำ

* ปรับปรุงสมรรถนะรถยนต์ให้ดีตลอดเวลา ช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ ร้อยละ 3- 9

ที่มา : คู่มือรวมพลังหยุดรถซดน้ำมัน - PDF

สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน


music Photobucket