อบรมยุทธวิธีการตั้งจุดตรวจ

   เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 53 กก.4 โดย พ.ต.อ.ธนวัฒน์  ภัคคะธนิตศักดิ์ ผกก.4 บก.ทล. และ พ.ต.ท.วิสุทธิ์  เคร่งจริง รอง ผกก.4 บก.ทล. ได้มีโครงการ"อบรมให้ความรู้และยุทธวิธีให้กับข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจ จุดสกัด" เพราะตำรวจทางหลวง ได้คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยการตั้งด่าน ตั้งจุดสกัด บนถนนหลวง จึงได้จัดอบรมยุทธวิธีการตั้งจุดตรวจขึ้นเพื่อ เพิ่มศักยภาพในการปฏิบัติหน้าที่ ปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิด
โดยมีวัตถุประสงค์ คือ
1. เพื่อให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดมีความรู้ เข้าใจ ระเบียบคำสั่ง ข้อกฏหมายในการตั้งจุดตรวจ
2.มีความรู้ด้านยุทธวิธี เทคนิคการตรวจค้น และวิธีการต่างๆ ในการสังเกตการณ์ ผู้กระทำความผิด
3.เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจมีการแบ่งมอบหน้าที่กันอย่างชัดเจน มีการทำงานอย่างเป็นระบบ เป็นมาตรฐานสากล
4.เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
วันที่ 17 พ.ค. 53 อบรมเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงขอนแก่นเป็นแห่งแรก มีข้าราชการเข้าร่วมอบรมอย่างพร้อมเพียง



คลิปวีดีโอ การซ้อมตั้งด่านตรวจและตรวจค้นรถยนต์



ผู้กำกับการ 4 บก.ทล. ได้ชี้แจงและให้ความรู้เกี่ยวกับการตั้งจุดสกัด ก่อนซ้อมตั้งด่านและตรวจค้น



ภาพการตั้งด่าน มีตำรวจคัดกรองรถ เพื่อนำไปสู่การตรวจค้น ในจุดต่อไป ได้ตั้งจุดตรวจที่หน้า สถานีตำรวจทางหลวงขอนแก่น



การซ้อมแบ่งออกเป็น สองชุด  เพราะผู้เข้าอบรมมีจำนวนมาก  ชุดนี้กำลังดูตัวอย่างชุดแรกปฏิบัติ
ผลการอบรมครั้งนี้ ผู้เข้ารับการอบรมได้รับความเข้าใจในการตั้งด่านตรวจ การแบ่งหน้าที่กันทำเป็นระบบ นำมาสู่ความปลอดภัย ในการทำงาน ต่อไป

read more

บ้านพักคนชราอุดรธานี

เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 13 มิ.ย.53 ที่ผ่านมาผู้เขียนได้มีโอกาส ไปทำบุญที่บ้านพักคนชราอุดรธานี ก็อาศัยอยู่เมืองอุดร มาเกือบสิบปี และบ้านพักคนชราก็อยู่ใกล้บ้าน  อยู่หมู่บ้านเดียวกันคือ บ้านดงอุดม ต.หนองบัว อ.เมือง ติดกับแยกบ้านหนองใส เคยคุยกับเพื่อนบ้าน ที่อยู่ในซอยเดียวกันว่า ถ้าทำบุญให้เด็ก กับ ทำบุญให้คนชรา จะเลือกทำบุญให้กับใคร ต่างคนก็ให้เหตุผลต่างไป ทั้งในเรื่องอนาคตของเด็ก และ ทั้งความเป็นไม้ใกล้ฝั่งของคนชรา แต่ทั้งหมดถูกทุกข้อ(ข้อ ง. ถูกทุกข้อ) ก็มีผู้เสนอว่า บ้านพักคนชราอยู่ใกล้ๆเราไปที่นี่กัน ใช่ครับ ไม่เคยไปทำบุญที่นี่กันเลย วันอาทิตย์นี้เหมาะ รวบรวมเพื่อนบ้านได้ 7 คน อาหาร หรือ ขนมตามแต่จะถนัด เดินทางไปบ้านพักคนชราในช่วงเช้าวันอาทิตย์ ในทันที
           บ้านพักคนชราตั้งอยู่ในบริเวณ โบสถ์ คริสต์จักร และอยู่ในความดูแลของ โบสถ์แห่งนี้ เมื่อเข้าไปก็เห็นป้าย เขียนว่า ยินดีต้อนรับ ผู้มีใจอารีย์ ป้ายนี้ทำให้ผมคิดว่าแตกต่างจากป้ายตามวัดต่างๆๆ ที่ ต้อนรับผู้ใจบุญคือทำบุญแล้วได้บุญทำนองนั้น ภายในบริเวณ มีอาคาร เป็นตึกสำหรับคนชราพัก 2 หลัง 2 หลังนี้สำหรับผู้หญิง และอาคารชั้นเดียวอีก 1 หลัง สำหรับผู้ชาย ภายในบริเวณกว้างขวาง ร่มรื่น



ภาพนี้ออกแนวศิลป์นิดหน่อย


กำลังเตรียมอาหาร จัดให้คนชรา

   เมื่อเราเดินตามทางเดินจะไปโรงเลี้ยง ซึ่งเป็นเวลาที่ผู้ชราทยอย ออกจากที่พักไปยังโรงเลี้ยง เมื่อ่ท่านเหล่านั้นเห็นผู้มาเยือนทั้งหลายก็ยิ้มดีใจ จากสภาพของท่านผู้ชราเหล่านี้ นอกจากชราแล้ว ยังมีสภาพร่างกายคลายคนพิการ คือ มือเท้าใช้ได้เป็นบ้าง ต้องนั่งรถเข็นบ้าง หรือไช้ไม้เท้า 4 ขา เราเข้าไปยังโรงเลี้ยงแล้วผู้ชราทุกท่านก็นั่งประจำโต๊ะกันแล้วเป็นบางส่วน กำลังกินข้าวต้มหมู ก็มีบางคนมองชามข้าวเฉยๆๆ แต่เมื่อเห็นพวกเรา เข้าไป ก็ยิ้มและจ้องมองมาที่เรา มีบางคนพูดขึ้นมาว่า เดือนนี้ทั้งเดือนเพิ่งเห็น พวกคุณนี่แหละมา


ภาพเมื่อเดินเข้าไป

 เมื่อแจกอาหารก็เดินพูดคุยตามโต๊ะต่างๆๆ สังเกตว่าท่านผู้ชราเหล่านี้ก็ต้องการที่จะใกล้ชิดกับเรา พูดคุยกับเรา อยากอยู่กับเรานานๆๆ  เพราะท่านเหล่านี้เหงา ส่วนอาหารก็ไม่ต้องการอะไรมากเพราะพวกท่านก็รับทานกันไม่เยอะ


 
ก็อย่างภาพนี้คนที่ยกมือไหว้ บอกมีลูกสามคน ตนเองพิการ เดินไม่สะดวก ช่วยตัวเองไม่ได้มากนัก แต่ทุกคนที่นี่ก็ สถาพเดียวกันครับ



ท่านผู้ชราเหล่านี้ รู้สึกจะชอบนมกับซาลาเปาเป็นพิเศษ เพราะรับประทานง่าย ฟันไม่มีนั้นเอง



 ทุกคนก็อยากเข้ามาคุยกับเรา ผมก็เดินคุยไปเรื่อยๆๆ มาสดุดกับคุณพี่ใส่เสื้อแดง อายุไม่มากประมาณ 50 ปี ก็ทำให้สงสัยว่าทำไม่มาอยู่ที่นี่  ท่านนั่งรถเข็นอยู่แน่นอนว่าพิการ ทั้งแขนขา



   พี่เขาแนะนำตัวทันที "ผมชื่อ บุญล้ำ ช่างปรุง บ้านอยู่ อ.ส่องดาว สกลฯ ผมเป็นอาสาสมัครทหารพราน"  เสียงที่พูดไม่ชัด ต้องทวน เพราะลิ้นแข็ง พี่เขาเล่าต่อว่า เมื่อปี 2526  เป็นอาสาสมัครทหารพรานที่ อ.ส่องดาว จ.สกลนคร วันหนึ่ง หลังจากไปลาดตระเวณ ที่ภูซากลาก จ.สกล พร้อมพวก รวม 12 นาย ตอนเช้า ขากลับฐาน ได้เดินทางผ่าน บ้านบ่อแก ได้ถูกผู้ก่อการร้าย(คุ้นๆๆ) ซุ่มโจมตีด้วยอาวุธสงครามนานาชนิด ทำให้ เพื่อนที่ไปด้วย ตาย 4 นาย บาดเจ็บ 8 นาย ตัวพี่เขา โดนยิงที่ศรีษะ    กระโหลกเปิด รอดตาย รักษาตัวอยู่เกือบ 2 ปี เมื่อหายจากบาดแผล ก็ปรากฏว่าร่างกายแขนขาใช้การไม่ได้เนื่องจากสมองถูกทำลาย การพูดก็ติดขัด


ภาพเมื่อสมัยเป็นทหารพรานของพี่บุญล้ำ  เป็นภาพการฝึกเดินสามขุม ขณะออกลาดตระเวน

     หลังจากนั้นมาก็ได้นั่งรถเข็นมาตลอด มาอยู่ที่บ้านพักคนชราอุดรฯ ตั้งแต่ปี 2545 มีเพื่อนที่ตอนนี้เป็นทหารมาเยี่ยมเป็นบางครั้ง

หลังจากพี่เขารับประทานอาหารเสร็จ ผมได้เข็นรถพี่เขาไปยังที่พัก กลับสู่ฐานที่มั่นได้อย่างปลอดภัยแล้วพี่ทหาร ขอบคุณที่ช่วยปกป้องผืนแผ่นดินไทย และที่ตรงนี้ดีที่สุดที่จะดูแลพวกท่าน


ภาพภายในห้องพัก ฟูกหุ้มพลาสติก ไม่มีผ้าปูนอนไม่มีพัดลม ต้องหาเองครับ
คนชราเมื่อรับทานอาหารเสร็จแล้วก็แยกย้ายกันพักพ่อนตามมุมต่างตามที่ตนชอบ และได้รับการบอกกล่าวจากคนชราบางท่านว่า มีบางคนอยู่บนตึก ลงมาไม่ได้ คราวหน้าเอาของไปฝากหน่อยเด้อ ว่างั้น ครับต้องมีคราวต่อไปครับ วันนี้ก็รอมืด รอพระอาทิตย์ขึ้นอีกในตอนเช้า
    อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น บ้านพักคนชราแห่งนี้อยู่ในความดูแลของ โบสถ์คริสต์ เซ็นเดอปอล ก็ให้เป็นที่สังเกตว่า ส่วนมากแล้วคริสจักร จะมุ่งไปให้ความช่วยเหลือ เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นคนตาบอด คนชาวเขา หรือผู้ป่วยเป็นโรคร้ายแรง มากกว่าที่จะทุ่มเงินไปในการสร้างถาวรวัตถุ  แต่วัดพุทธเราก็มีลักษณะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เหมือนกันเช่น วัดพระพุทธบาทน้ำพุ วัดสวนแก้ว   ที่เสนอความเห็นเช่นนี้ก็อยากเรียกร้องให้พุทธชนของเราหันมาให้ความสำคัญในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน จากปกติที่เราอาจบริจาคเพื่อสร้างถาวรวัตถุ ราคาเป็นร้อยล้านพันล้าน ขอแบ่งสักครึ่ง มาบริจาคเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ด้วยกัน แล้ววัดพุทธควรหันมาสนใจเรื่องเหล่านี้ อาจเป็นภาระอันหนัก แต่ว่าถ้ามีโอกาส สถานที่ เงิน ก็ควรทำ เราผู้มีโอกาสดีกว่าเขาเหล่านี้ เวลาเราเจอพวกเขา เราอาจคิดแค่สงสารแล้วผ่านไป หรือในความคิดอีกซึก อยากช่วยเหลือไม่รู้จะช่วยเหลืออย่างไร เพราะไม่มีหน่วยงานเข้ามารับผิดชอบจริงจัง ต่อไปนี้ครับ เราอาจไม่ต้องรอถึงวันเกิด หรือวันปีใหม่ เราก็ตัดสินใจ เสียสละ ไปช่วยพวกเขา ขอเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่เราตั้งใจจะบริจาคทำบุญที่อื่น ก็ไปทำบุญช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสเหล่านี้

read more

โรงกษาปณ์รังสิต

ผู้เขียนได้มีโอกาสเดินทางจาก ขอนแก่นไปโรงกษาปณ์รังสิต รถใช้ความเร็วได้ไม่มาก ก็ใช้เวลากว่า 7 ชั่วโมง ต้องพักบ่อยๆ
ดูเพิ่มเติมได้ที่  http://photobychandha.blogspot.com/2010/07/blog-post.html



ปั๊มน้ำมันที่โคราช มีมุมพักสวยงามผ่อนคลาย



ร้านขายของฝาก

ขบวนรถมาถึงโรงกษาปณ์ ตอนบ่ายสามโมงแดดเริ่มอ่อน พอมาถึงก็พบกับ สถาปัตยกรรมอันสวยงามของโรงกษาปณ์ จึงต้องบันทึกภาพมาฝาก



ด้านข้างโรงกษาปณ์ เสาเรียงรอบตัวตึกดูเหมือนตึก สมัยโรมัน



มองไปที่ตึกด้านหน้า เป็นเวลาเย็นแล้วแสงเริ่มน้อย



ระหว่างตึกที่ทำการด้านหน้ากับโรงกษาปณ์ด้านหลัง



ตึกที่ทำการด้านหน้าเด่นเป็นสง่า อาคารลักษณะแบบนี้หาที่เลี่ยนแบบได้ยากจริงๆๆ สังเกตุว่าตัวตึกมีน้ำล้อมรอบตลอด



คนละมุม สวยเหมือนเดิม



ภาพรวมด้านหน้าทั้งหมด มุขทรงไทยผสมกับอาการแบบโรมัน



ภาพตอนเช้าแดดเริ่มแรง ทำให้เห็นแสงและเงาของตัวตึก



ด้านข้างแบบเต็มๆๆ เสารอบตัวอาคาร

read more

ตำรวจทางหลวงขอนแก่น นำแผ่นทอง ไปลงอักขระ

เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 53 สถานีตำรวจทางหลวงขอนแก่น โดย พ.ต.ท.จอมพล รุจิรดำรงค์ชัย สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวงขอนแก่น ได้นำแผ่นทอง แผ่นเงิน แผ่นนาค ที่ได้รับจาก บก.ทล. เพื่อที่จะใช้เป็นมวลสารในการสร้างพระพุทธรูปบูชา  ไปลงอักขระที่สำนักสงฆ์เกาะกุดหิน ต.หนองกรุงธนสาร อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น โดย พระธรรมดิลก



การเดินทางไปที่วัดต้องนั่งเรือแจวไปที่เกาะ



การเดินทางครั้งนี้มีข้าราชการตำรวจทางหลวงขอนแก่นร่วมเดินทางไปด้วย 12 นาย เพื่อร่วมนำแผ่นทองไปลงอักขระ และ ร่วมทำบุญกับทางวัด เป็นสิริมงคลกับชีวิตและครอบครัว



สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวงขอนแก่นพร้อมด้วยข้าราชการตำรวจทางหลวงขอนแก่น นมัสการพระธรรมดิลก ให้ลงอักขระ แผ่นทอง เงิน นาค



พระธรรมดิลก สำนักสงฆ์เกาะกุดหิน  แห่ง อ.ภูเวียง ขอนแก่น กำลังลงอักขระ



สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวงขอนแก่นรับมอบ แผ่นทอง แผ่นนาค แผ่นเงิน จากพระธรรมดิลก


พระธรรมดิลก(สมาน สุเมโธ  ป.ธ.๙) ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าแสงอรุณ อ.เมือง จ.ขอนแก่น และมาสร้างสำนักสงฆ์ที่เกาะกุดหิน อ.ภูเวียง แห่งนี้ ได้เขียนบทกวีไว้มากมาย ขอยกมาให้อ่านเป็นบางบท ดังต่อไปนี้
                                       เรื่อง เข้าวัดทั้งทีต้องมีคนหามไป
                                          มีสุขลืมถนัด                    ไม่เข้าวัดเสียเวลา
                                          ดื่มเหล้าเมากามา             แสวงหาตลอดปี
                                          มีทุกข์หน้าเศร้าสร้อย       ใจละห้อยคอยเป็นผี
                                          เข้าวัดกันทั้งที                  ต้องให้มีคนหามไป

                                                       

read more

หน้าบ้านน่ามอง

       ตำรวจทางหลวงขอนแก่นได้จัดทำโครงการหน้าบ้านน่ามอง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของข้าราชการตำรวจและครอบครัว ปรับภูมิทัศน์บริเวณบ้านพักให้สวยงาม ร่มรื่น ครอบครัวได้มีกิจกรรมร่วมกัน อบอุ่น
        ดังนั้น ด.ต.เอกชัย แสนสระดี ผบ.หมู่ ตำรวจทางหลวงขอนแก่น จึงรับนโยบายมาทำในทันที โดยการกระชับพื้นที่หน้าบ้าน สมาชิกในครอบครัวช่วยกันจัดการเอาดินมาลง แล้วปลูกหญ้า ทำน้ำตกหน้าบ้าน ให้ดูสวยงาม


นำเก้าอี้ไม้มาวางสำหรับนั่งเล่นจิบกาแฟตอนเช้า ต้นไม้กระถางก็ทำชั้นวางเป็นชั้นๆๆเนื่องจากเนื้อที่มีจำกัด



จุดเด่นอีกอย่างคืออ่างบัวหน้าบ้าน ถ้าอยู่บริเวณถนนจะมองเห็นแต่ไกล รอการออกดอก เป็นที่สะดุดตาแก่ผู้พบเห็น





บริเวณใกล้ตัวบ้านมีน้ำตก และเลี้ยงปลาสวยงาม นำโต๊ะหินอ่อนมาตั้ง ด.ต.เอกชัย เล่าว่าเอาไว้นั่งรับทานอาหารเย็นกับครอบครัว เวลาดังกล่าวแดดเริ่มอ่อน ลมเย็นๆๆ  ช่างโรแมนติก



สนามหญ้าหน้าบ้าน ด.ต.เอกชัย นำแผ่นปูน มาวางเป็นทางเดินไปยังประตูทางเข้าบ้าน ด้านบน ได้นำพรางแสงมาขึงไว้ แล้วปลูกต้น ม่านบาหลี ให้เลื้อยไปตามพรางแสง และรากม่านบาหลีก็ย้อยลงมา กระทบกับแสงยามเช้าประกายแดง ดูสวยงามยิ่ง



นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการพัฒนาบ้านพักตำรวจให้น่าอยู่ และข้าราชการตำรวจอีกหลายนายก็เริ่มทำ แล้ว เช่น ด.ต.เคน มาลา ทำสวนหน้าบ้านเอาหินมาปู และเน้นไม้กระถางไม้แขวนประเภทรากอากาศ  บ้านของ ด.ต.เกรียงไกร โคตรประทุม ได้ทาสีบ้านและซ่อมแซมบางส่วน พื้นปูกระเบี้อง เปลี่ยนหน้าต่าง ทำให้ดูเหมือนได้บ้านใหม่ และต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านก็คงใว้ให้ร่มเงา  ส่วนของ ด.ต.อดิศักดิ์ ตึกประโคน ได้จัดไม้กระถางมาวาง พร้อมเก้าอี้ไม้ ตามต้นไม้ก็เอาไม้เลื้อยมาแขวน บรรยากาศดูร่มรื่น อบอุ่นมากขึ้น และเป็นที่นั่งพักของข้าราชการตำรวจที่เดินผ่านไปมาบริเวณนั้น   ขอเชิญชวนข้าราชการตำรวจของเราอีกครั้ง พัฒนาบ้านพักให้ดูสวยงาม  เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต และเหมือนเป็นการพัฒนาสถานีตำรวจเราด้วย
  

read more

หน่วยหนองเรือหน่วยบริการดีเด่น

  ผู้ใช้บริการทางหลวงที่จะเดินทางจากจังหวัดขอนแก่นไปยังจังหวัดทางภาคเหนือ คงต้องใช้บริการทางหลวงหมายเลย 12 หรือที่เรามักเรียกกันว่า สายชุมแพ เพราะก่อนจะไปเหนือก็ต้องผ่านชุมแพก่อนและไปยังชัยภูมิ ในเส้นทางนี้ มีหน่วยบริการตำรวจทางหลวง(ของภาคอีสาน)เราอยู่ 3 หน่วยบริการ คือ
    หน่วยบริการหนองเรือ อยู่ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น หน่วยบริการชุมแพ อยู่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น และ หน่วยบริการคอนสาร อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ
  ถ้าเราเดินทางจากจังหวัดขอนแก่น ไปประมาณ 35 กม. ก็จะเจอ หน่วยบริการตำรวจหนองเรือ หน่วยบริการนี้ได้รับการปรับปรุงเพื่อต้อนรับนักเดินทาง ตลอด 24 ชม. ตลอดระยะทางนี้ ไม่มีปั๊มน้ำมันให้คุณแวะพักได้ หน่วยบริการหนองเรือจึงเป็นทางเลือกที่ดีของนักเดินทางที่จะแวะพัก โดยหน่วยนี้ได้รับการสนับสนุนจาก เทศบาล และ อบต.ในพื้นที่ โดยการประสานงานอันยอดเยี่ยมของ หัวหน้าหน่วย
เรามาทำความรู้จักหน่วยบริการตำรวจทางหลวงหนองเรือกัน

ก่อนอื่น เรามารู้จัก หัวหน้าหน่วยกันว่า เขามีแนวความคิดในการปรับปรุง หรือ มีโครงการอะไรบริการประชาชน


 

ด.ต.สานิตย์ ผางจันทดา หัวหน้าหน่วยบริการตำรวทางหลวงหนองเรือ
โทร.087-2333315
 
ด.ต.สานิตย์ กล่าวว่า ตำรวจทางหลวงคำนึงถึงความปลอดภัยของนักเดินทาง จึงได้คิดปรับปรุงหน่วยบริการเพื่อรองรับนักเดินทาง โดยได้สร้างห้องน้ำเพิ่มขึ้นมา สะอาด สวยงามเพียงพอต่อจำนวนผู้ใช้ และได้นำต้นไม้มาปรับภูมิทัศน์ให้ดูสวยงามเป็นการผ่อนคลายยามเมื่อยล้า มีดอกไม้กล้วยไม้สวยงามดูแล้วสดชื่นจริงๆๆ นึกถึงรีสอร์ทสวยๆๆ แถวภาคเหนือเลยทีเดียว



หลังจากใช้บริการห้องน้ำแล้ว จุดเดินผ่านอีกแห่งคือ จุดนั่งพัก หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทาง ในจุดนี้ ได้จัดบริการน้ำดื่ม กาแฟ หนังสือพิมพ์ ไว้คอยบริการ ตรงนี้ ฟรี ครับ จากใจตำรวจทางหลวงจริงๆๆ รายล้อมไปด้วยไม้สวยๆๆ รักต้นไม้รักธรรมชาติ



  ด้านการให้ความช่วยเหลือยามฉุกเฉิน ในเส้นทางหลวง ตำรวจทางหลวงคือมิตรแท้ พร้อมให้บริการคุณตลอด 24 ชม. ด.ต.สานิตย์ กล่าวว่า นอกจากให้บริการห้องน้ำ ที่พักแล้ว เรายังให้ความช่วยเหลือยามฉุกเฉิน เช่นเครื่องยนต์เสีย ยางแตก น้ำมันหมด สอบถามเส้นทาง โดยมีเครื่องมือพร้อมทุกอย่างไม่ว่า แม่แรงยกรถ สายลาก สายพ่วงแบตเตอรี่ บล๊อกถอดล้อ ก็อดสงสัยไม่ได้นะครับว่ามีบริการน้ำมันด้วยเหรอ ด.ต.สานิตย์ กล่าวว่า ตลอดเส้นทางจากขอนแก่น มาถึงหน่วยบริการไม่มีปั๊มน้ำมันเลย


ถ้าผู้เดินทางน้ำมันหมดในช่วงนี้ หน่วยบริการหนองเรือ ก็จะบริการเติมน้ำมันให้ 15 ลิตรเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนไปก่อน ชื่นใจครับกับความคิดดีๆๆ ในการบริการประชาชน โดยโครงการนี้ ก็ได้ออก ทีวี มาแล้วทางช่อง 7 สี รายการ 7วัน 7 อย่าง



  เมื่อเข้ามาพักใช้บริการหน่วยบริการตำรวจหนองเรือแล้ว ก่อนเดินทางต่อ ทาง ด.ต.สานิตย์ ยังได้เตรียมน้ำดื่ม ขวดขนาด 1 ลิตร ให้ติดรถไว้ดับกระหายระหว่างเดินทางต่อไปด้วย



ด.ต.สานิตย์ กล่าวอีกว่า เนื่องจากหน่วยบริการหนองเรือ มีบริเวณกว้างขวาง มีธรรมชาติสวยงาม มีต้นไม้เขียวตลอดปี ผู้เดินทางทุกท่านสามารถที่จะ นำเต๊น มากางนอนได้ ตั้งแค็มป์ กันได้เป็นหมู่คณะเลยที่เดียว
 


อันนี้ ด.ต.สานิตย์ อารมณ์ศิลป์จริงๆๆครับ เป็นคนรักต้นไม้ นะครับ

หัวหน้าหน่วยบริการตำรวจทางหลวงหนองเรือ ด.ต.สานิตย์ ผางจันทดา พร้อมด้วย ตำรวจทางหลวงประจำหน่วยบริการทุกนาย ยินดีรับใช้ผู้เดินทางทุกท่านด้วยความเต็มใจ และเต็มที่ สมเป็น หน่วยบริการตำรวจทางหลวงดีเด่น ครับผม.

read more