ครอบครัวตำรวจทางหลวงขอนแก่นทุกคน ยินดีรับใช้ครับ


ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ด้วยการ ๑.ไม่ขับรถเร็วเกินกฏหมายกำหนด ๒.เมาไม่ขับ ๓. ก่อนขับร่างกายต้องพร้อม รถพร้อม


จุดให้บริการ ที่พักผ่อน ห้องน้ำ เครื่องดื่ม กาแฟ แก่ผู้เดินทาง หน่วยบริการบ้านไผ่ หน่วยบริการน้ำพอง หน่วยบริการหนองเรือ แวะใช้บริการได้ทุกเมื่อ หรือขอความช่วยเหลือ โทร.1193

วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2553

รถบรรทุกวัตถุอันตราย

0 comments
วัตถุอันตราย หมายถึง สาร สิ่งของ วัตถุหรือวัสดุ ๆ ที่อาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพและวามปลอดภัยของคน สัตว์ ทรัพย์สิน หรือสิ่งแวดล้อม ระหว่างทำการขนส่ง ซึ่งแยกเป็น 9 ประเภทดังนี้

ประเภทที่ 1 วัตถุระเบิด (Eplossives) หมายถึง ของแข็ง หรือหของเหลว หรือสารผสมที่สามารถเกิดปฎิกิริยาทางเคมีด้วยตนเอง ทำให้เกิดก๊าซที่มีความดันและความร้องอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดการระเบิดสร้างความเสียหายบริเวณโดยรอบได้ และให้รวมถึงสารที่ใช้ทำดอกไม้เพลิง และสิ่งของที่ระเบิดด้วย แยกเป็น 6 ประเภทย่อย คือ


1.1 สารหรือสิ่งของที่ก่อให้เกิดอันตรายจากากรระเบิดรุนแรงทันทีทันใดทั้งหมด (Mass ezplosion)
1.2 สารหรือสิ่งของที่มีอันตรายจากากระเบิดแตกกระจายแต่ไม่ระเบิดทันทีทันใดทั้งหมด
1.3 สารหรือสิ่งของที่ที่มีอันตรายต่อการเกิดเพลิงไหม้ และอาจมีอันตรายจากการระเบิด หรือการระเบิดแตกกระจายร่วม แต่ไม่ระเบิดทันทีทันใดทั้งหมด
1.4 สารหรือสิ่งของที่ไม่แสดงความเป็นอันตรายอย่างเด่นชัด หากเกิดการประทุหรือประทุในระหว่างการขนส่ง จะเกิดความเสียหายเฉพาะภาชนะบรรจ
1.5 สารทีที่มีความไวต่อการระเบิด แต่หากมีการระเบิดจะมีอันตรายจาการระเบิดทั้งหมด
1.6 สิ่งของที่ไวต่อการระเบิดน้อยมาก และไม่ระเบิดพร้อมกันทั้งหมด มีความเสี่ยงต่อการระเบิดอยู่ในวงจำกัดเฉพาะในสิ่งของนั้น ๆ ไม่มีโอกาสที่จะเกิดการประทุหรือแผ่กระจายในทางทำการขนส่ง
ประเภทที่ 2 ก๊าซ (Gases) หมายถึง สารที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส มีความดันไอมากกว่า 300 กิโลปาสกาล ซึ่งได้แก่ ก๊าซอัด ก๊าซพิษ ก๊าซอยู่ในสภาพของเหลวอุณหภูมิต่ำและให้รวมถึงก๊าซที่ละลายในสารภายใต้ความดันด้วย แยกเป็น 3 ประเภทย่อย คือ

2.1 ก๊าซไวไฟ (Flammabel gases) หมายถึง ก๊าซที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส และมีความดัน 101.3 กิดลปาสกาล สามารถติดไฟได้เมื่อสัมผสมกับอากาศ 13 เปอร์เซ็นต์หรือต่ำกว่าดดยปริมาตรหรรือมีช่วงกว้างที่สามารถติดไฟได้ 12 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปเมื่อผสมกับอากาศ โดยไม่คำนึงถึงความเข้มข้นต่ำสุดของการผสม
2.2 ก๊าซไวไฟและไม่เป็นพิษ (Non-flammable , non-toxc gases) หมายถึง กา๊ซที่ขณะขนส่งมีความดันไม่น้อยกว่า 280 กิโลปาสกาลที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียล หรืออยู่ในสภาพของเหลวอุณหภูมิต่ำ
2.3 ก๊าซพิษ (Toxic gases) หมายถึง ก๊าซที่มีคุณสมบัติเป็นที่ทราบทั่วกันไป หรือได้มีการสรุปว่าเป็นพิษหรือกัดกร่อน หรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

ประเภทที่ 3 ของเหลวไวไฟ (Flammable liquids) หมายถึง ของเหลว หรือของเหลวผสม หรือของเหลวที่มีสารแขวนลอยผสมซึ่งมีจุวาบไฟไม่เกิน 60.5 องศาเซลเซียส กรณีทดสอบด้วยถ้วยปิด (close-cup test) หรือไม่เกิน 65.6 องศาเซลเซียส กรณีทดสอบด้วยถ้วยเปิด (close-cup test ) และให้รวมถึงของเหลวที่ขณะขนส่งถูกทำให้มีอุณหภูมิเท่ากับหรือมากกว่าจุดวาบไฟของเหลวนั้น และสารหรือสิ่งของที่ทำให้อุณหภูมิจนเป็นของเหลวขณะทำการขนส่ง ซึ่งเกิดไอระเหยไวไฟที่อุณหภูมิไม่มากกว่าอุณหภูมิสูงสุดที่ใช้ในการขนส่ง



ประเภทที่ 4 ของแข็งไวไฟ สารที่มีความเสี่ยงต่อการลุกไหม้ได้เอง และสารที่สัมผัสกับน้ำแล้วทำให้เกิดก๊าซไวไฟ (Flammable Solids, Substances Liable to spontaneous combustion, Substances whice in contact with water emit flammable gases) แยกเป็นประเภทย่อย คือ
4.1 ของแข็งไวไฟ (Flammable Solids) หมายถึง ของแข็งที่ระหว่างทำการขนส่งสามารถที่จจะติดไฟได้ง่าย หรืออาจทำให้เกิดการลุกไหม้ขึ้นได้จากการเสียดสี สารหรือสารที่เกี่ยวข้องที่มีนวโน้มที่จะเกิดปฏิกิริยาคายความร้อนที่รุนแรง และให้รวมถึงวัตถุระเบิดที่ถูกลดความไวต่อการระเบิด ซึ่งอาจระเบิดได้ ถ้าหากไม่ทำให้เจือจางเพียงพอ
4.2 สารที่สัมผัสกับน้ำแล้วทำให้เกิดก๊าซไวไฟ (Substances whice in contact with water emit flammable gases) หมายถึง สารที่ทำปฎิกิริยากับน้ำแล้วมีแนวโน้มที่จะเกิดการติดไฟได้เอง หรือทำให้เกิดก๊าซไวไฟในปริมาณที่เป็นอันตราย



ประเภทที่ 5 สารออกไดส์และสารอินทรีย์เปอร์ออกไซด์ (Oxidizing substances and Organic peroxides) แยกเป็น 2 ประเภทย่อย คือ
5.1 สารออกซิไดส์ (Oxidizing substances) หมายถึง สารที่ตัวเองของารเองอาจไม่ติดไฟ โดยทั่วไปจะปล่อยออกซิเจนหรือเป็นเหตุหรือช่วยใ้วัตถุอื่นเกิดการลุกไหม้
5.2 สารอินทรีย์เปอร์ออกไซด์ (Organic peroxides) สารอินทรีย์ที่มีโครงสร้างออกซิเจน 2 อะตอม -O-O- และอาจถือได้ว่าเป็นสารที่อนุพันธ์ของ Hydrogen peroxide ซึ่งอะตอมของ Hydrogen 1 หรือทั้ง 2 อะตอม ถูกแทนที่ด้วย Oranic radicals สารนี้ไม่เสถียรความร้อนซึ่งอาจเกิดปฏิกิริยาคายความร้อนและเร่งการแตกตัวด้วยตนเอง และอาจมีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างดังต่อไปนี้
ก. แนวโน้มที่จะระเบิดสลายตัว ข. เผาไหม้อย่างรวดเร็ว
ค. ไวต่อการกระแทกหรือการเสียดสี ง. ทำปฏิกิริยากับสารอื่นก่อให้เกิดอันตรายได้
จ. เป็นอันตรายต่อตา



ประเภทที่ 6 สารพิษและสารติดเชื้อ (Toxic and Infections sustances) แยกเป็น 2 ประเภทย่อย คือ
6.1 สารพิษ (Toxic sustances) หมายถึง สารที่มีแนวโน้มจะทำให้เสียชีวิต หรือบาดเจ็บรุนแรง หรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ หากกลืนหรือสูดดม หรือสัมผัสทางผิวหนัง
6.2 สารติดเชื้อ (Infections sustances ) หมายถึงสารที่ทราบว่าหรือคาดว่ามีเชื้อดรคปนอยู่ด้วย เชื้อโรค คือ จุลินทรีย์ (ซึ่งรวมถึง แบคทีเรีย ไวรัส Rickettsia พยาธิ เชื้อรา) หรือจุลินทรีย์ที่เกิดใหม่ หรือเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม ซึ่งรู้กันโดยทั่วไปหรือมีข้อสรุปที่เชื่อถือได้ว่าเป็นเหตุให้เกิดโรคต่อมนุษย์หรือสัตว์



ประเภทที่ 7 วัสดุกัมมันตรังสี (Radioactive material) หมายถึง วัสดุที่สามารถแผ่รังสีที่มองไม่เห็น ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย การพิจารณาความเป็นอันตรายให้เป็นไปตามมารตราฐานและข้อกำหนดต่าง ๆ ด้านการขนส่งสารกัมตรังสีของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างปรหะเทศ (International Atomic Energy Agency หรือ IAEA)



ประเภทที่ 8 สารกัดกร่อน (Corrosive substances) หมายถึง สารซึ่งโดยปฏิกิริยาเคมีจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อของสิ่งมีชีวิตอย่างรุนแรง หรือกรณีของการรั่วจะเกิดความเสียหาย หรือทำลายสิ่งของอื่นหรือยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่ง หรือเกิดอันตรายอื่นได้ด้วย



ประเภทที่ 9 วัตถุอันตรายเบ็ดเตล็ด (Misellaneous dangerous substances and articles) หมายถึง สารและสิ่งของที่ในขณะขนส่งมีความเป็นอันตราย ซึ่งไม่จัดอยู่ในประเภทที่ 1 ถึงประเภทที่ 8 และให้รวมถึงสารที่มีอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 100 องศาเซียส ในสภาพของเหลว หรือมีอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 240 องศาเซลเซียส ในสภาพของแข็ง

รถที่บรรทุกวัตถุอันตรายทั้ง 9 ประเภทนี้ ผู้ประกอบการขนส่งต้องจัดให้มีป้ายที่แสดงตัวอักษร ภาพ หรือเครื่องงหมายติดไว้ด้านท้ายรถและด้านข้างตัวรถทั้ง 2 ด้าน
ลักษณะการบรรทุกวัตถุอันตรายดังกล่าว ที่ผู้รถที่ใช้ในการขนส่งต้องได้รับใบอนุญาตขับรถชนิดที่ 4 มีดังนี้
1. รถบรรทุกวัตถุอันตราย (รถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่ง ลักษณะ 4 ) ที่ถังบรรทุกมีความจุเกินกว่า 1,000 ลิตร
2. รถพ่วงและรถกึ่งพ่วง (รถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่ง ลักษณะ 6 และลักษณะ 7) ที่ถังที่ใช้ในการบรรทุกเฉพาะวัตถุอันตราย มีความจุเกินกว่า 1,000 ลิตร
และรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่ง ลักษณะอื่น ที่มีลักษณะการบรรทุกโดยนำไปไช้ในการบรรทุกวัตถุอันตราย ดังนี้
1. วัตถุอันตรายประเภทที่ 1 (วัตถุระเบิด) ประเภทที่ 6 (สารพิษและสารติดเชื้อ) และประเภทที่ 7 (วัตถุกัมมันตรังสี)
2. วัตถุอันตรายที่เป็นก๊าซหรือก๊าซเหลวบรรจุในภาชนะโดยมีปริมาณรวมกันเกินกว่า 1,000 ลิตร หรือมีน้ำหนักรวมกันเกินกว่า 1,000 ลิตร
3. วัตถุอันตรายที่เป็นของเหลวที่บรรจุในภาชนะ โดยมีปริมมาณรวมกันเกินกว่า 1,000 ลิตร หรือเป็นขอิงแข็งที่มีน้ำหนักรวมกันเกินกว่า 1,000 กิโลกรัม หรือทั้งสองอย่างรวมกันเกินกว่า 1,000 ลิตร หรือเกินกว่า 1,000 กิโลกรัม อย่างใดอย่างหนึ่ง
ทั้งนั้ ประกาศนี้มิให้ใช้บังคับแก่
1. รถที่ใช้ในการบรรทุกเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์ ที่มีภาชนะบรรจุเครื่องดื่มในแต่ภาชนะมีปริมาตรไม่เกิน 250 ลิตร
2. รถที่ใช้ลากจูงที่รถบรรทถุกวัตถุอันตรายตามประกาศนี้ ในกรณีที่รถบรรทุกวัตถุอันตรายนั้นไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติหรือเกิดอุบัติเหตุ
3. รถที่ใช้ในการขนส่งวัตถุอันตรายอื่น นอกจากที่กำหนดไว้ในข้อ 1 และข้อ 2 ที่ได้รับยกเว้นตามเอกสารคำแนะนำของสหประชาชาติ ว่าด้วยการขนส่งสินค้าอันตราย (UN Recommemdations on the Transport of Dangerous Gooods) ที่ได้รับความเห็นชอบจากรมการขนส่งทางบก
หากผู้ประกอบการขนส่งวัตถุอันตราย มีข้อสังสัยสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักวิศวกรรมและความปลอดภัย โทร 272-5312
ข้อมูลจาก : กรมการขนส่งทางบก

วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553

หน่วยน้ำพองช่วยเหลือคณะพระสงฆ์

0 comments
หน่วยบริหารตำรวจทางหลวงน้ำพอง เป็นหนึ่งในหน่วยบริการของ ตำรวจทางหลวงขอนแก่น ซึ่งให้บริการประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ได้อย่างประทับใจ และได้รับความชมเชยจากประชาชนผู้ใช้ถนนหลวงหมายเลข 2 หรือถนนมิตรภาพ เป็นประจำ หน่วยบริการตำรวจทางหลวงน้ำพอง ตั้งอยู่ อ.น้ำพอง ตรงแยก กระนวน ระหว่าง กม.34-35  ถ้าขับรถมาจากขอนแก่นประมาณ 30 กม.หลังจากลงสะพานข้ามแม่น้ำพองแล้วชิดซ้าย หน่วยบริการจะตั้งอยู่ริมถนน เลี้ยวรถเข้าไปเลยครับ ตำรวจทางหลวงพร้อมให้บริการให้ข้อมูลในการเดินทาง หรือต้องการขอความช่วยเหลือเป็นการด่วน กด 1193
    หน่วยบริการตำรวจทางหลวงน้ำพองมี ด.ต. อภิชาติ  บุญฉิม เป็นหัวหน้าหน่วย  มีตำรวจประจำหน่วย อีก 4 นาย มีผลงานให้ความช่วยเหลือ ผู้ได้รับอุบัติเหตุ หรือรถเสีย ทุกวันครับ

pong1

  การให้ความช่วยเหลือรถที่ได้รับอุบัติเหตุเมื่อเร็วๆนี้ ด.ต.อภิชาติ เล่าว่าให้ความช่วยเหลือคณะพระสงฆ์ที่จะเดินทางไปประเทศลาว โดยเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 53  เวลาประมาณ 02.00 น. รถตู้ของคณะพระสงฆ์เมื่อลงสะพานข้ามแม่น้ำพอง ถึงเชิงสะพานล้อรถ ด้านหน้าขวาหลุด แต่ไม่พลิกคว่ำ รถวิ่งต่อไปไม่ได้  ล้อรถที่หลุดกระเด็นข้ามฝั่งไปทางคู่ขนานในช่องทางรถวิ่งสวน

pong4

และล้อรถเข้าไปใต้ท้องรถสิบล้อขนไม้ยูคาฯ ทำให้รถสิบล้อพลิกคว่ำ ไม่มีผู้ใดบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ไม้ยูคาฯ หล่นเต็มพื้นถนน กีดขวางการจราจร

pong3

เมื่อ หน่าวยบริการตำรวจทางหลวงน้ำพองได้รับแจ้งเหตุ จึงนำรถวิทยุ 4211 พร้อมด้วยกำลังตำรวจหน่วยน้ำพองไปยังที่เกิดเหตุทันที ได้พบกับคณะพระสงฆ์รอความช่วยเหลืออยู่ คือ พระครูอรุณธรรมรังษี(เอี่ยม สิริวณโณ ) วัดอรุณราชวราราม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ

pong2

พระครูอรุณธรรมรังษี เล่าว่าตนเป็นผู้เขียน หนังสือสวดมนต์มนต์พิธี จะนำคณะนำหนังสือดังกล่าวไปถวายวัด ในประเทศลาว และได้ประสบอุบัติเหตุดังกล่าว ด.ต.อภิชาติ ได้เรียกช่างมายกรถไปยังอู่ซ่อมบริเวณใกล้เคลียง

pong5

ส่วนรถสิบล้อที่พลิกคว่ำได้นำรถวิทยุ 4211 เปิดไฟวับวาบ ปิดกั้นตรงจุดรถคว่ำ และนำกรวยยางมาวางเปิดช่องจราจรได้ 1 ช่องทาง เรียกรถยก หน่วยกู้ภัยทำการช่วยเหลือ

pong6

ด.ต.อภิชาติ กล่าวว่า ขณะนั้นเป็นเวลาดึกแล้วและรถของคณะพระสงฆ์ กำลังซ่อมอยู่เดินทางต่อไปไม่ได้ จึงนิมนต์พระสงฆ์และคณะ ไปพักยังหน่วยบริการตำรวจทางหลวงน้ำพอง โดย ด.ต.อภิชาติได้จัดที่นอนให้ทุกคน  พรุ่งนี้เช้ารถซ่อมเสร็จจึงเดินทางต่อ
  เมื่อถึงตอนเช้า ด.ต.อภิชาติ  ได้จัดภัตตาหารถวายคณะพระสงฆ์  และได้นำรถตู้ที่ซ่อมเสร็จแล้วมาส่ง
สร้างความประทับใจให้กับคณะพระสงฆ์ดังกล่าวเป็นอย่างมาก  พระสงฆ์ได้สวดมนต์และพรมน้ำมนต์ให้กับตำรวจหน่วยบริการน้ำพอง ทั่วทุกคน
ครั้นคณะพระสงฆ์ได้เดินทางกลับจากประเทศลาวในวันถัดไป คือวันที่ 6 มิ.ย. 53 ก็ได้แวะเยี่ยมตำรวจหน่วยบริการน้ำพองอีกครั้ง ได้ซื้อของมาฝากมากมาย และกล่าวขอบใจที่ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี
นี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของตำรวจทางหลวงขอนแก่น ที่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบเหตุสร้างความอบอุ่นใจและประทับใจไม่รู้ลืม นำชือเสียงมาสู่หน่วยงาน สร้างมิตรภาพอันดีระหว่างตำรวจกับประชาชน
หน่วยบริการตำรวจทางหลวงน้ำพองพร้อมที่จะให้บริการตลอด 24 ชม. มีอุปการณ์ให้ความช่วยเหลือ บริการห้องน้ำที่สะอาด ประชาชนที่จอดรถแวะพักมีน้ำมีกาแฟ บริการฟรี หายเหนื่อนหายง่วง ค่อยเดินทางต่อไป
เดินทางครั้งใดประสบเหตุ เรียกตำรวจทางหลวง 1193 พร้อมบริการทุกเมื่อครับ

ป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนถนนหลวง

0 comments
       อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนถนนหลวงนั้นมักมีความรุนแรง สร้างความเสียหายแก่ชีวิต และ ทรัพย์สิน ทั้งนี้ สาเหตุหลัก มาจาก เมาแล้วขับ ง่วงแล้วขับ ขับรถเร็ว ขับรถประมาทน่าหวาดเสียว เหล่านี้เป็นสิ่งที่ตำรวจทางหลวงเข้มงวดกวดขันจับกุม เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจะเกิดขึ้น

f

สำหรับ ประเภทรถที่เกิดอุบัติเหตุในถนนหลวง จากข้อมูลของ บก.ทล. แจ้งว่า อันดับหนึ่งคือ รถ กระบะ
ต่อมาคือ รถมอเตอร์ไซด์ อันดับสุดท้ายคือ รถเก๋ง

fff

เกิดอุบัติเหตุแต่ละครั้ง ก็มีเสียชีวิต ทั้งตัวผู้ขับเอง และผู้ร่วมใช้ถนนด้วยกัน การจราจรก็ติดขัด

ffff

fff2

ภาพที่แสดงนี้อุบัติเหตุเกิดจาก ง่วงแล้วขับ ทำให้ขับรถตกถนน รถที่ตามมาก็ชน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย

ffffff1

ff

ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ก่อนขับรถควรคิดถึงความปลอดภัยก่อนอันดับแรก ตั้งสติก่อนสตาทย์ 
ตรวจสภาพรถให้พร้อมเสมอเช่น ลมยางรถ สภาพยางรถชำรุดหรือไม่ ก็ป้องกันอุบัติเหตุได้


สภาพร่างกายของผู้ขับก็มีส่วนสำคัญมากที่จะป้องกันอุบัติเหตุ ต้องไม่ง่วง ไม่อ่อนเพีลย ถ้าร่างกายไม่พร้อมก็ให้พัก่อน เดี่ยวนี้ตามปั๊มน้ำมันก็มีบริการให้คนขับได้พักมีตลอดเส้นทางแล้ว หรือแวะพัก หน่วยบริการตำรวจทางหลวงตามเส้นทางที่ท่านผ่าน โทร.1193


ผู้ที่ดื่มสุรา มีผลต่อการขับรถเป็นอย่างมาก ทำให้ประสิทธิภาพการขับลดลง ทั้งสายตา การตัดสินใจ สมองสั่งการช้า ผู้ที่ดื่มสุราต้องงดขับรถเด็ดขาด เพราะอาจสร้างความเสียหายต่อตนเองและผู้อื่นได้ การดื่มสุราแล้วขับก็มีโทษสูงด้วย ไม่ใช่แค่คุมประพฤติ แต่มีทั้งปรับและจำคุก ที่สำคัญอาจทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้


การขับรถเร็วนั้นทำให้ควบคุมรถได้ยาก เมื่อเกิดอุบัติเหตุก็จะก่อความเสียหายรุนแรง และเป็นการสิ้นเปลืองน้ำมันด้วย ควรขับรถใจเย็นๆๆนะครับเพราะถึงที่หมายแน่นอน ความเร็วในการขับรถที่กฏหมายกำหนด
รถเก๋งไม่เกิน 90 กม./ ชม.
รถบรรทุกไม่เกิน 60 กม./ชม.
ในเส้นทางถนนหลวงจะมี เรดาห์ จับความเร็วตลอดเส้นทาง เมื่อท่านขับรถเร็วก็จะมีภาพถ่ายรถพร้อมใบสั่งให้ท่านมาเสียค่าปรับ


การขับรถในขณะฝนตก
    ทุกครั้งที่มีฝนตกผู้เขียนมักได้รับแจ้งการเกิดอุบัติเหตุทุกครั้งหรือแม้ขณะออกตรวจเมื่อฝนตกก็จะเจอกับรถที่เกิดอุบัติเหตุทุกครั้ง จึงมาเขียนวิธีขับรถบนถนนหลวงเมื่อขณะฝนตก
-การเกิดอุบัติเหตุขณะฝนตกมักเกิดจากขับรถเร็ว เพราะผู้ขับมั่นใจในสมรรถนะของรถ หรือเร่งรีบ แต่หารู้ไม่ว่า เมื่อฝนตก ถนนจะเปียกลื่น หรือมีน้ำขังทำให้ผิวหน้ายางรถรถยนต์ ไม่สัมผัสกับผิวถนน เวลาขับรถเร็วจะเสียการควบคุม และเกิดอุบัติเหตุในที่สุด ดังนั้น เมื่อฝนตกไม่ควรขับรถเร็วเกิน 60 กม.ต่อ ชั่วโมง
-ขับรถชิดซ้ายตลอดไม่ควรแซงในขณะฝนตก การขับชิดซ้ายจะทำให้คุณปลอดภัย จากสภาพทัศนวิสัยไม่ดี
-เปิดไฟหน้า เพื่อให้รถคันอื่นเห็นเรา และไม่ควรเปิดไฟกระพริบทั้งสองข้าง เพราะรถที่ตามมาจะสับสนว่าเราจะเลี้ยวซ้ายหรือขวา
ครับก็ขอให้ใช้ความระมัดระวังในการขับรถนะครับ กลับถึงบ้านโดยปลอดภัยแน่นอน


ทั้งหมดก็เป็นข้อห่วงใยในการใช้รถใช้ถนนของตำรวจทางหลวงขอนแก่น เมื่อท่านขับรถบนถนนหลวงแล้วกรณีมีช่องทางรถ สองช่องทางให้ท่านขับรถชิดซ้ายเสมอ เว้นแต่จะแซงรถข้างหน้า กรณีมีช่องทางเดียวไม่มีเกาะกลางมีรถวิ่งสวน ก่อนจะแซงให้แน่ใจเสียก่อนว่าแซงพ้น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น
เมื่อรถท่านมีปัญหาขัดข้อง หรือ ประสบอุบัติเหตุ เรียกตำรวจทางหลวง 1193 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรับใช้ท่าน

วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2553

หน่วยบริการตำรวจทางหลวงน้ำพองจับกุมผู้ลักลอบขนตัวนิ่ม

0 comments
      หน่วยบริการตำรวจทางหลวงน้ำพอง มีผลงานด้านการปราบปราบอาชญากรรมอย่างต่อเนื่อง นั้นเป็นเพราะหัวหน้าหน่วยบริการและตำรวจประจำหน่วยทุกนาย มีความขยันในการออกตรวจตั้งด่าน สกัดกั้น ผู้กระทำผิดบนถนนหลวง ซึ่งส่วนมากมักกระทำผิดในช่วงเวลากลางคืน ดังนั้นตำรวจประจำหน่วยต้องหมั่นตรวจตรา ตั่งด่าน หรือแม้กระทั้งออกหาข่าว เพื่อที่จับกับผู้กระทำผิดบนท้องถนนหลวง
       ผลงานการจับกุมล่าสุด หัวหน้าหน่วยบริการตำรวจทางหลวงน้ำพองพร้อมพวก ได้จับกุม ผู้ลักลอบขนตัวนิ่มอันเป็นสัตว์ป่าสงวน ด.ต.อภิชาติ บุญฉิม , จ.ส.ต.จิระ พลสง, ด.ต.เอกชัย เสนสระดี ได้เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2552 เวลาประมาณ 05.00 น. ได้ร่วมกันตั้งด่านหน้าหน่วยบริการตำรวจทางหลวงน้ำพอง โดยก่อนหน้านี้ได้สืบทราบมาว่า มีการลักลอบขนสิ่งผิดกฏหมายจากทางภาคใต้ไปหนองคาย จึงได้ร่วมกันตั้งด่านเพื่อทำการจับกุม

nim

จนถึงเวลา 0500 น. ได้เรียกรถกระบะต้องสงสัย เป็นรถโตโยต้า ทะเบียน ธน 9781 กทม. เข้ามาตรวจค้น พบ ด้านหลังรถกระบะ มีกล่องพลาสติก บรรทุกอยู่บนกระบะรถ และมีกลิ่นแรง คล้ายสัตว์ ได้เรียกคนขับรถลงมา เปิดกล่องดูเพื่อตรวจสอบ จึงพบว่าเป็นตัวนิ่ม

nim1

จึงได้จับกุมตัวคนขับรถ คือนาย บุญเลิศ  สวัสดิ์พานิช พร้อมของกลางตัวนิ่ม 133 ตัว

nim2

จากการสอบถาม คนขับ ให้การว่า รับตัวนิ่มจากทางภาคใต้ ผ่านทางกรุงเทพฯจะไปส่งยังหนองคาย

nim3

TG9HZKJ62SN8
และก็ไปไม่ถึงที่หมายถูกตำรวจทางหลวงน้ำพอง จับกุมได้เสียก่อน    ด.ต.อภิชาติฯ พร้อมพวก จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา มีสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครอง ใว้ในครอบครอง จับกุมตัวนำส่ง สภ.น้ำพอง เพื่อดำเนินคดีต่อไป
    เป็นอีกผลงานหนึ่งของ หน่วยบริการตำรวจทางหลวงน้ำพอง ที่เอาใจใส่ในการปราบปราบอาชญากรรม บนท้องถนนหลวง จนนำมาชึ่งการจับกุมคดีสำคัญนี้....เราอยู่ใหนประชาอุ่นใจทั่วกัน,,,

วันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2553

รถวิทยุ 4214 อำนวยการจราจร รถบรรทุกประสบอุบัติเหตุ

0 comments
เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 53  เวลาประมาณ 10.50 น.  รถวิทยุ 4214 ของตำรวจทางหลวงขอนแก่น  โดย ด.ต.พิชัย ดู่ป้อง  พลขับ และ ร.ต.ท.จันทร์ดา วงษ์ชา  ได้เดินทางไปสำรวจเส้นทางเสด็จ ที่ อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม  ตามเส้นทางหลวง 209  เดินทางมาถึงหน้าโรงเรียนบ้านเข็งมิตรภาพ139 ได้พบรถบรรทุกน้ำมัน เกิดอุบัติเหตุ ข้ามเกาะกลางถนนเข้ามายังช่องทางรถวิ่งสวน

saegyaun3

กีดขวางช่องทางจราจร 1 ช่องจราจร เปิดช่องจราจรได้ 1 ช่องจราจร  รถวิทยุ 4214 เข้าไปจัดการจราจรทันที

saegyaun1

และได้แจ้งให้หน่วยบริการตำรวจทางหลวง ยางตลาดทราบ

saegyaun2

หลังจากนั้นไม่นาน ตำรวจจราจร สภ.ยางตลาด ก็นำกรวยยางมาวางกั้นให้รถวิ่งสะดวกขึ้น และ รถตำรวจทางหลวงยางตลาด โดยรถวิทยุ 4105  มี ด.ต.อาคม บุญศรี และ ส.ต.อ.ธนากร มอไธสง
ก็มาถึงที่เกิดเหตุได้ติดต่อรถยก มายกออกจากช่องจราจรเพื่อเปิดการจราจรปกติต่อไป
อุบัติเหตุครั้งนี้ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต แต่อย่างใด น้ำมันไม่รั่วไหล เพราะเป็นรถบรรทุกเปล่า

วันพุธที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ตำรวจทางหลวงขอนแก่นช่วยเปลี่ยนยางรถยนต์

0 comments
        เมื่อวันที่ 28 พ.ค.53 เวลาประมาณ 22.00 น.เขตตรวจรอบเมือง โดยรถวิทยุ 4214 ด.ต.พิชัย ดู่ป้อง ทำหน้าทีพลขับ ด.ต.อดิศักดิ์ ตึกประโคน พนักงานวิทยุ ด.ต.จำลอง นาทันริ ขณะขับรถวิทยุกลับจากหน่วยบริการน้ำพองปฏิบัติหน้าที่อำนวยการจราจรเนื่องจากมีรถประสบอุบัติเหตุ ก็ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุทางหลวงขอนแก่นให้ช่วยเหลือรถยนต์กระบะ ยางแตก ไม่มีเครื่องมือ และร้านปะยางก็ปิดบริการหมด เนื่องจากอยู่ในระหว่างประกาศเคอร์ฟิว ของรัฐบาล รถวิทยุไปถึงที่ได้รับแจ้งอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ที่โดยสารมากับรถ ดีใจและสบายใจมากขึ้นเนื่องจากที่บริเวณนั้นมืดและเปลี่ยวผู้โดยสารเป็นผู้หญิงและเด็ก

aw

      ตำรวจทางหลวงขอนแก่นซึ่งมีอุปกรณ์ช่วยเหลือพร้อมอยู่แล้วได้ทำการถอดยางและนำไปให้ร้านปะยางที่คุ้นเคยกัน ทำการซ่อมแซมให้

ae
 
     สอบถามคนขับรถดังกล่าว ใด้ความว่าเดินทางจาก จังหวัดอุดรธานีไป จังหวัดระยอง และขอขอบคุณตำรวจทางหลวงที่ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่